จดหมายข่าว
ฉบับปี 2550 |
5
/ 2550 |
>> คุณค่าและความหมายของชีวิต
ในมุมมองที่หลากหลายความเชื่อ |
>> ผู้สูงอายุคาทอลิกร่วมกันวางแผนงานปี
2551 "'งานผู้สูงอายุโดยผู้สูงอายุ เพื่อผู้สูงอายุ" |
>> มิสซังสุราษฏร์ธานีจัดวันรวมพลคนสูงอายุ |
>> บทความ
"เอดส์ : ศาสนาและพันธกิจ" |
|
"ผ่านมา
1 ปีได้อะไรจากการสนับสนุน
หน่วยงานคาทอลิกที่ดูแลเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อเอชไอวี" |
สืบเนื่องจากการที่ คณะอนุกรรมการคาทอลิกเพื่อส่งเสริมงานเอดส์
ได้พยายามที่จะช่วยเหลือหน่วยงานคาทอลิกที่จัดตั้งบ้านเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อฯขึ้น
โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กที่ติดเชื้อฯให้ได้รับการศึกษาโดยตรงและโดยอ้อม
พร้อมทั้งได้รับการดูแล/รักษา อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านทางหน่วยงานคาทอลิกที่ทำบ้านพักสำหรับเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อฯที่มีอายุระหว่าง0-18
ปี |
คณะอนุกรรมการฯได้เริ่มทำการสำรวจหน่วยงานคาทอลิกที่ทำงานด้านเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อมาตั้งแต่ปี2548
และทำโครงการเสนอต่อองค์กรทุนคาทอลิกเพื่อขอความช่วยเหลือ และได้รับการสนับสนุนมาเป็นจำนวน
13 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี มีเด็กที่เข้าร่วมอยู่ในโครงการจำนวน
173 คน จาก 5 หน่วยงานคือ 1. บ้านมิตราทร-เชียงดาว 2.บ้านลอเรนโซ-พนัสนิคม
3.มูลนิธิสุธาสินีน้อยอินทร์เพื่อเด็กและเยาวชน-ยโสธร 4.โครงการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์(คณะธิดาเมตตาธรรม
)- กาฬสินธุ์) และ 5.คามิลเลียนโซเชียลเซนเตอร์- ระยอง โครงการ เริ่มดำเนินการให้การสนับสนุนตั้งแต่เดือนมกราคม
2550 โดยมี 3 ยุทธศาสตร์ ด้วยกันคือ |
1 |
สนับสนุนบ้านพักในการให้การดูแลและรักษา
เป็นต้น เสื้อผ้า อาหาร ยา การศึกษาด้านสุขภาวะ โดยแต่ละบ้านจะได้รับการสนับสนุนเงิน
2,100 บาท/เดือน/เด็กในบ้านพัก 1 คน |
2 |
สนับสนุนด้านการเสริมสร้างศักยภาพเด็ก
การศึกษาในระบบและนอกระบบ กิจกรรมทัศนศึกษา รวมถึงการประชุมหน่วยงานที่รับการสนับสนุนทุก
2 เดือนและประเมินผลทุก 6 เดือน |
3 |
พัฒนาศักยภาพของผู้ให้การดูเด็ก เช่นการให้การอบรมเรื่องพัฒนาการของเด็ก
อบรมด้านจิตวิทยา ด้านการดูแลเด็ก การให้การปรึกษาฯลฯ |
|
จากการประเมินผลสถานการณ์ที่ผ่านมาพบว่าส่วนใหญ่มีปัญหาดังนี้ |
1 |
มีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรบ่อย ทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง
เด็กสับสนในการเลี้ยงดู |
2 |
เด็กมีความสับสนทางด้านอารมณ์ เป็นต้นเด็กที่ย่างเข้าสู่วัยรุ่น |
3 |
เด็กมีสุขภาพอ่อนแอ ทำให้มีผลต่อการเรียนด้วย |
4 |
เด็กขาดโอกาสทางการศึกษาเนื่องจากชุมชนปฏิเสธ |
5 |
พี่เลี้ยงขาดความรู้ด้านจิตวิทยาและการดูแลเด็ก |
เมื่อมีการสนับสนุนในด้านเงินทุนและวิชาการ
เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพของเด็กรวมถึงพี่เลี้ยง ทำให้เด็กได้รับการเอาใจใส่ดูแลด้วยความรักเพิ่มมากขึ้น
มีการช่วยเติมเต็มสิ่งที่เด็กต้องการทั้งในด้านของสุขภาพกายและจิต นอกจากนี้ทางโครงการฯกำลังเตรียมการที่จะเริ่มตั้งกลุ่มเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อขึ้น
โดยเด็กๆเหล่านั้นเห็นดีและเห็นชอบด้วย เพราะเขาต้องการเพื่อนคู่คิด
ต้องการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันในเรื่องของการใช้ชีวิตในสังคม
การกินยาต้านไวรัส การมีครอบครัวใหม่ การดูแลรักษาตนเองและการที่จะไม่แพร่เชื้อฯให้กับผู้อื่น
เขาต้องการที่จะมีโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพของตน ให้ผู้คนในสังคมยอมรับ
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ดี ที่คณะกรรมการคาทอลิกยินดีให้การสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง
และโครงการนี้จะเริ่มด้วยการจัดทำค่ายสำหรับเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อ ครั้งแรกในวันที่
1-5 เมษายน 2551 ซึ่งพวกเด็กๆเองได้นำเสนอหัวข้อไว้น่าสนใจมากคือ |
1 |
เรื่องยาต้านไวรัส |
2 |
การดูแลสุขภาพตนเองให้ดีเหมือนคนอื่น |
3 |
การทำสมาธิ/โยคะ ริมหาดทราย |
4 |
ปัญหาทั่วไปของวัยรุ่นปัจจุบัน |
|
จากการประชุมทุก 2 เดือน
ได้มีการพูดคุยถึงการทำงาน สภาพปัญหา การแก้ไขปัญหา และแนวทางในการพัฒนาเด็กมาโดยตลอด
เราพบว่า เด็กๆที่อยู่ในโครงการได้มีการพัฒนาตนเองมากขึ้นในทุกๆด้าน
คือ |
ด้านสุขภาพกาย
เด็กได้รับยาต้านไวรัส ได้เรียนรู้ที่จะใช้ยาอย่างถูกต้อง ได้รับอาหารประจำวันที่ครบถ้วนและอาหารเสริมเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
ได้เรียนรู้ด้านสุขอนามัยเรื่องเพศ ทำให้สามารถดูแลตนเองได้ เป็นเด็กสาวและเด็กหนุ่มที่น่ารัก
ด้านจิตใจ เด็กได้รับความรัก ความเอาใจใส่จากพี่เลี้ยง มีกิจกรรมผ่อนคลาย
ทำให้ไม่เป็นเด็กที่ก้าวร้าว และมีน้ำใจ รู้จักช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า
|
ด้านสติปัญญา
เด็กมีโอกาสเรียนพิเศษเพิ่มเติมความรู้ที่เรียนไม่ทัน และเรียนพิเศษเพื่อสร้างทักษะที่ตนมีความสามารถพิเศษเพื่อสามารถนำไปประกอบอาชีพได้
เช่นเรื่องดนตรี งานฝีมือ ภาษา และ คอมพิวเตอร์ |
ด้านสังคม เด็กสามารถเปิดตนเองในที่สาธารณะ
เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่น และที่สำคัญเด็กมีความสามารถในการที่จะเป็นผู้นำ
สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองเต็มที่ |
จากการที่เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้เจ้าหน้าที่และผู้บริหารของหน่วยงานคาทอลิกที่ทำบ้านพักเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อฯที่เข้าร่วมโครงการ
มีความยินดีที่ได้เข้าร่วมในโครงการเพราะมิเพียงแต่เด็กจะพัฒนา แต่รูปแบบการทำงานของหน่วยงานก็ได้รับการพัฒนาด้วย
เป็นต้นเรื่องการจัดระบบการบริหารงาน การทำแผนปฏิบัติงาน การบันทึกข้อมูล
การจัดทำรายงานกิจกรรม และการทำรายงานการเงิน |
Back |