|
|
|||
|
"จิตอาสาดูแลผู้สูงอายุ"
|
|||
|
|
|||
| ที่มาของโครงการดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันประชากรผู้สูงอายุ มีจำนวนมากขึ้นเมื่อเทียบสัดส่วนกับประชากรในวัยอื่นๆ จากข้อมูลของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ปัจจุบันประชากรในวัย 60 ปีขึ้นไปมีจำนวน 7 ล้านกว่าคน ซึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรไทยทั้งหมด อัตราส่วนประชากรผู้สูงอายุไทย มีมากกว่าร้อยละ 10 จึงถือว่าประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว (Ageing Society) และได้มีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่า ในปี พ.ศ.2568 จำนวนประชากรผู้สูงอายุของไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 14,452,000 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด(ที่มา :วิยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย http://www.cps.chula.ac.th/html_th/pop_base/ageing/ageing_041.htm ) | |||
| ทางภาครัฐโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุก็ได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จึงมีนโยบายและโครงการต่างๆ เตรียมรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว พระศาสนจักรคาทอลิกเองก็มิได้นิ่งเฉยต่อภาวะการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่งมีผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และสิ่งแวดล้อม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุเอง ดังนั้นในแผนอภิบาลของพระศาสนจักรคาทอลิก ตั้งแต่แผนอภิบาลปี 2000 - 2010 ได้ให้นโยบายไว้อย่างชัดเจนในแผนกิจกรรมงานอภิบาลข้อ 2.2.5 เรื่องงานอภิบาลผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้พิการ โดยในข้อ 2.2.5.1 ได้กล่าวถึงการส่งเสริมและฟื้นฟูจิตตารมณ์พระบัญญัติประการ 4 โดยเน้นการสร้างกลุ่มผู้สูงอายุ ,จัดให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลรักษาสุขภาพอย่างถูกวิธี เหมาะสมและมีความสุข ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างมีคุณค่า สมศักดิ์ศรี ในแผนอภิบาลคริสตศักราช 2010-2015 จึงได้เน้นย้ำเรื่องการอภิบาลผู้สูงอายุ ในบทที่ 4 ข้อ 25,29 ได้กล่าวถึงว่า พระเป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตามภาพลักษณ์ของพระองค์ ดังนั้น พระศาสนจักรทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันปกป้อง ส่งเสริม พัฒนาคุณภาพชีวิต ศักดิ์ศรี และสิทธิของผู้สูงอายุ ให้มีความภูมิใจในศักดิ์ศรีการเป็นมนุษย์ เป็นบุตรของพระเจ้า ตระหนักในบทบาทและหน้าที่ของตน เพื่อให้บุคคลผู้สูงอายุได้มีชีวิตและมีชีวิตอย่างสมบูรณ์ และในข้อ 31 ได้กล่าวถึงการสร้างทีมอภิบาลระดับชาติ ระดับสังฆมณฑล และระดับวัดอย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรม สร้างระบบเครือข่ายในการติดตาม ช่วยเหลือ สนับสนุนทีมงานให้มีความมั่นคงและเติบโตทั้งด้านจิตวิญญาณและการดำรงชีพตอบสนองต่อสภาพสังคมปัจจุบัน | |||
| ดังนั้น
ทาง "ชมรมเครือข่ายผู้สูงอายุคาทอลิกแห่งประเทศไทย" จึงได้ดำเนินการจัดทำแผนเขียนโครงการขอรับการสนับสนุนจาก
สสส. ซึ่งมี "สมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ" เป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องงานที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ โครงการดังกล่าวนี้เริ่มต้นด้วยการสำรวจข้อมูล ดูความต้องการของผู้สูงอายุในชุมชนในเครือข่าย ว่ามีปัญหา มีความต้องการอะไรบ้าง เมื่อได้ทราบปัญหาว่า ในชุมชนเครือข่ายมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น มีปัญหาเรื่องสุขภาพอนามัย ขาดองค์ความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพ และขาดคนดูแลเอาใจใส่ ให้ความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพ ดังนั้น ทางคณะอนุกรรมการคาทอลิกเพื่อผู้สูงอายุ จึงได้นำข้อมูลเหล่านี้มาพัฒนาเป็นโครงการ |
|||
|
และประกาศรับสมัครอาสาสมัครหรือจิตอาสาภายใต้เครือข่ายที่พร้อมจะเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ
เพื่อให้เข้ารับการอบรมความรู้ ในเรื่องการดูแลผู้สูงอายุในด้านต่างๆ
ในเบื้องต้นของการเริ่มโครงการในครั้งนี้ มีอาสาสมัครที่สมัครเข้ารับการอบรมจำนวน
72 คน แต่เข้าร่วมรับการอบรมจริงจำนวน 69 คน จาก 6 สังฆมณฑล ได้แก่
อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ สังฆมณฑลเชียงใหม่ สังฆมณฑลนครสวรรค์ สังฆมณฑลราชบุรี
สังฆมณฑลจันทบุรี และ สังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี (โดยทางสังฆมณฑล 4 สังฆมณฑลทางภาคอีสาน
จะจัดร่วมกันเฉพาะภาคอีสาน โดยให้เครือข่ายผู้สูงอายุและฝ่ายสังคมอัครสังฆมณฑลท่าแร่ฯเป็นแกนนำในการดำเนินงานต่อไป)เนื้อหาของการอบรม
ได้แก่
|
|||
| 1. สถานการณ์ผู้สูงอายุในปัจจุบัน | |||
| 2. ความรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงของร่างกายผู้สูงอายุ | |||
| 3. จิตวิทยาผู้สูงอายุ | |||
| 4. บทบาทอาสาสมัคร และ จิตตารมณ์รักและรับใช้ | |||
| 5. เสริมสร้างสุขภาพผู้สูงอายุด้วยกิจกรรมกายบริหาร | |||
| 6. อาหารตามหลักโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ | |||
| 7. การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานสำหรับผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ | |||
| 8. ทักษะในการดูแลผู้สูงอายุโดยแสดงบทบาทสมมุติ | |||
|
9. มารยาทและท่าทีในการเยี่ยมผู้สูงอายุ
|
|||
|
10. ทักษะในการบันทึกข้อมูลการเยี่ยม
และการจัดระบบเอกสารที่เกี่ยวข้อง
|
|||
|
11. ความรู้เรื่องงานบริการของรัฐที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ
|
|||
|
12. ฝึกปฏิบัติการดูแลผู้สูงอายุ
ผู้ป่วยในสถานการณ์จริง ณ บ้านพักผู้สูงอายุคามิลเลียน โซเชียล เซนเตอร์
จันทบุรี
|
|||
|
โดยได้รับความเอื้อเฟื้อวิทยากร
จากชมรมเวชบุคคลคาทอลิกแห่งประเทศไทย และการอบรมอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุในครั้งนี้
เป็นเพียงการเริ่มต้นของโครงการ และเป็นเพียงการนำร่องในการมีส่วนร่วมในชุมชนวัด
ตามทิศทางงานอภิบาลปี 2010-2015 ตามบทบาทหน้าที่ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งในระดับวัด
ระดับสังฆมณฑล และระดับชาติ ความสำเร็จของโครงการนี้คงจะต้องดูต่อไปว่า
นับจากวันที่อาสาสมัครได้รับการอบรมเสร็จสิ้น จนถึงเมื่อสิ้นปีงบประมาณโครงการแล้ว
|
|||
|
ผู้สูงอายุในชุมชนโดยเฉพาะผู้ที่ช่วยตนเองไม่ได้จากชุมชนที่เข้าร่วมได้รับการดูแลแบบองค์รวมอย่างสม่ำเสมอจากอาสาสมัครผู้เข้ารับการอบรมหรือไม่
และที่สุดของความสำเร็จของโครงการคือ ความยั่งยืนของแนวความคิด ชุมชนเข้มแข็ง
ดูแลตนเองได้ในระดับหนึ่ง ในเรื่องของผู้สูงอายุ โดยมีอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น
ร่วมกันรับใช้ชุมชนอย่างเป็นระบบและเป็นเครือข่ายด้วยองค์ความรู้ที่ถูกต้อง
ดังนั้น จึงต้องขอฝากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานผู้สูงอายุทั้งโดยตรง และผู้นำทุกระดับตั้งแต่ระดับวัด ระดับสังฆมณฑล เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าวอย่างจริงจัง สม่ำเสมอ เพื่อความดีของผู้สูงอายุ และเพื่อรับกับ "สังคมผู้สูงวัย" ที่เราต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบันและต่อๆไปด้วย |
|||
| จดหมายข่าว ฉบับปี 2551(2008) | |||
| จดหมายข่าว ฉบับปี 2550(2009) | |||
| English Newsletter 2007 | |||
| English Newsletter 2005-2006 Back | |||
E-Newsletter
สุขภาพอนามัย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
© CHC
สำนักเลขาธิการ : 122/11
ถนนนนทรี 14 เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
Tel. / Fax. 66 2 681 5857 E-mail : chc@cbct.net