เนื่องจากความเจริญด้านเทคโนโลยีในปัจจุบัน
โดยเฉพาะความก้าวหน้าด้านการทำพันธุวิศวกรรม (Genetic Engineering)
การสำเนาพันธุ์ (Cloning) ฯลฯ ที่กำลังสร้างประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในเวลานี้ว่าการวิจัยทดลองและนำมาใช้ซึ่งเทคโนโลยีชีวภาพนี้
"ผิดต่อจริยธรรมหรือไม่?"
ต่อคำถามนี้หากย้อนกลับไปหาถึงที่มาแล้วเริ่มจากที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกมีวิวัฒนาการอยู่ตลอดเวลาเพื่อปรับสมดุลให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและนำไปสู่การกลายพันธุ์(Mutation)
นั่นคือยีน(Gene) ที่เป็นหน่วยพันธุกรรมที่ควบคุมการแสดงออกของลักษณะต่างๆ
ในสิ่งมีชีวิตนั้นมีส่วนประกอบสำคัญคือ ดีเอ็นเอ (DNA) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการแสดงออกของลักษณะต่างๆ
ของสิ่งมีชีวิต แต่ปัจจุบันมนุษย์กลับเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการกำหนดการกลายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตต่างๆ
โดยการสังเคราะห์ชิ้นส่วนยีนรวมถึงถ่ายฝากยีนของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์หนึ่งไปสู่สิ่งมีชีวิตอีกสายพันธุ์หนึ่งด้วยวิธีพันธุวิศวกรรม
(Genetic Engineering) ให้เกิดการสร้างสิ่งมีชีวิตรูปแบบใหม่ที่ดีที่สุด
แม้ว่าการวิจัยดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงคุณลักษณะของสิ่งมีชีวิตให้ดีกว่าเดิม
แต่อีกด้านหนึ่งคือความกังวลต่อผลที่ตามมาว่าแนวโน้มของผลผลิตอาจมีภัยต่อสุขภาพและที่สำคัญคือการทดลองที่ต้องกระทำกับสิ่งมีชีวิต
ควรต้องมีขอบเขตเพียงใดจึงจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาในสังคม
ศาสนาคิดอย่างไรต่อเทคโนโลยีการแปลงพันธุ์มนุษย์
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) และมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ
ร่วมกันจัดเวทีอภิปรายขึ้นมาเพื่อร่วมกันหาคำตอบภายใต้หัวข้อ "แนวคิดแต่ละศาสนาหลักในประเทศไทยต่อเรื่องชีวจริยธรรม"
เมื่อปลายปีที่แล้วโดยมีผู้แทน ศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม ร่วมกันแสดงทัศนะพร้อมกับผู้เข้าร่วมประชุมกว่า
100 คน
มุมมองประเด็นการทำลายชีวิต
เทคโนโลยีสร้างมนุษย์ใหม่ขึ้นมาโดยกระบวนการผสมเทียม (เด็กหลอดแก้ว)
ที่สร้างตัวอ่อนขึ้นมาหลายๆ ตัวและเลือกตัวอ่อนที่ดีที่สุดไว้ส่วนที่เหลือจะถูกกำจัดไป
ต่อวิธีการนี้ผู้แทนทุกศาสนาต่างเห็นพ้องกันว่าการทำลายตัวอ่อนที่เหลือจากการคัดเลือกแล้ว
แม้จะเป็นขั้นตอนหนึ่งของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ "ถือเป็นการทำลายชีวิตที่หลักศาสนาไม่ยอมรับเพราะการทำลายตัวอ่อนเท่ากับทำลายสิ่งสร้างของพระผู้สร้างย่อมถือว่าเป็นการฆ่า
ไม่ว่าจะฆ่าด้วยเหตุผลหรือรูปแบบใดก็ตาม
มุมมองในประเด็นการคัดเลือกพันธุ์และเพศมนุษย์
การพัฒนาเทคโนโลยีทางพันธุศาสตร์เพื่อพัฒนาการรักษาโรคมีกระบวนการเช่นเดียวกับการสร้างมนุษย์ใหม่
ที่ทำการคัดเลือกตัวอ่อนที่มีคุณลักษณะที่ตรงตามความต้องการที่สุด
ในมุมมองจากผู้แทนสามศาสนามีว่า "เนื่องด้วยกระบวนการคัดเลือกพันธุ์มนุษย์ให้ได้ตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ย่อมนำไปสู่การกำจัดเผ่าพันธุ์ที่ไม่สมบูรณ์
ขัดต่อหลักคำสอนของศาสนาที่กล่าวว่า ความสมบูรณ์ของมนุษย์ต้องรวมถึงการมีจิตใจที่ดีงาม
และอยู่ร่วมกันด้วยการช่วยเหลือเกื้อกูล หากในกระบวนการคัดเลือกพันธุ์ไม่มีความระมัดระวังก็จะเป็นการทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์นั่นเอง
มุมมองในประเด็นสิทธิการจ้างงานและการประกันสุขภาพ
การค้นพบวิธีตรวจหาข้อมูลที่สำคัญบางประการ เช่น รหัสพันธุกรรมชุดที่ควบคุมการเกิดโรค
ความสูง ความแข็งแรง ฯลฯ หากมีการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เรียกร้องผลประโยชน์หรือกำจัดกลุ่มที่ไม่ต้องการให้หมดไป
อาทิกรณีการจ้างงานบุคลากรที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ หรือการประกันสุขภาพที่จะใช้ข้อมูลไปประกอบการพิจารณาทำกรมธรรม์ประกันชีวิต
ในมุมมองของผู้แทนทั้งสามศาสนา มีความเห็นพ้องกันว่า สิทธิส่วนบุคคลและศักดิ์ศรีของแต่ละคนจะต้องได้รับความเคารพ
อาจมีข้อยกเว้นในประเด็นเรื่องโรคติดต่อที่มีอันตรายร้ายแรงต่อส่วนรวม
แต่ทั้งนี้เมื่อเป็นการวินิจฉัยว่าเป็นโรคแล้ว มิใช่เพียงแค่การทำนายโอกาสว่าอาจจะเกิดขึ้นได้
|